เทียนหอม จุดให้หอม
Tips and Trick จาก CandleLike Team

ถ้าพูดถึงเทียน เราคงจะเคยเห็นรูปแบบเทียนมาแล้วหลายแบบ ทั้งเทียนแบบแท่งที่จุดไหว้พระ เทียนจุดเป่าเค้กวันเกิด หรือเทียนบนโต๊ะอาหาร หรือแม้กระทั่งเทียนที่หล่อขึ้นรูปทรงต่างๆ 

เทียนหอมใส่อะไรลงไปถึงได้ "เทียนหอม" ละ

การทำเทียนหอมนั้น จะมีส่วนผสม 2 ส่วน คือ 1.ตัวแว็กซ์ Wax และ 2 คือกลิ่นที่เราใส่ในเทียนหอม 

ถ้าพูดถึงเรื่องแว็กซ์ เทียนหอมสามารถทำมาจากแว็กซ์ได้หลากหลาย ทั้งจากไขพืช ไขจากสัตว์ หรือไขจากการสกัดปิโตรเคมี โดยแว็กซ์ที่นำมาทำเทียนหอมก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป

สำหรับกลิ่นที่ใส่ในเทียนหอม จะเป็นหัวน้ำหอมเข้มข้น ที่สกัดจากพืช สมุนไพร หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Essential Oil น้ำมันหอมระเหย และอีกประเภทคือ หัวน้ำหอมสกัดที่ให้กลิ่นหอม กลิ่นก็จะมีหลากหลาย ทั้งกลิ่นที่เรียนแบบดอกไม้ ผลไม้ หรือผสมกันจนเกิดเป็นกลิ่นใหม่ๆ ที่ถูกใจ ให้เลือกใช้ได้มากมาย

CandleLike มักได้รับคำถามบ่อยๆ เกี่ยวกับวิธีการใช้งานเทียนหอม ว่าจะใช้อย่างไร ใช้ตรงไหน ที่จะได้กลิ่นที่หอมคุ้มค่า บทความนี้ขอแนะนำวิธีการใช้เทียนหอม ทั้งวิธีการจุด การวาง การดับเพื่อการใช้งานที่คุ้มค่ากันเลย

เมื่อเราเลือกซื้อเทียนหอมกลิ่นที่ชอบมาแล้ว สิ่งแรกที่สำคัญคือ "จุดที่วางเทียนหอม" แน่นอนสิ่งนี้สำคัญ เพราะถ้าเราอยากให้กลิ่นฟุ้งกระจาย สิ่งที่เราควรคำนึงถึงคือห้อง หรือบริเวณที่วางเทียนหอม ควรเป็นพื้นที่ ที่ลมไม่แรง และอากาศสามารถหมุนเวียนได้ หรือลมออกได้ช้าๆ เพราะเทียนหอมไม่ถูกกับลม

ทำไมเทียนหอมถึงไม่ถูกกับลม อย่างแรกคือ ลมแรงเทียนดับแน่นอน อย่างที่สอง ลมพัดกลิ่นหอมไปทำให้ไม่ได้กลิ่น และอย่างสุดท้ายไส้เทียนเมื่อโดนลมจะเกิดควันดำ

เพราะฉะนั้น จุดที่วางเทียนหอมดีที่สุดคือพื้นที่ปิดหน่อย เช่นวางในห้องน้ำ ห้องรับแขก โดยเฉพาะห้องที่ติดเครื่องปรับอากาศยิ่งดี รับรองหอมกระจายทั่วห้อง

 สิ่งที่สำคัญต่อมา ที่จะทำให้เทียนหอมคุณใช้ได้อย่างคุ้มค่ามาก คือ "ระยะเวลาการจุดเทียน แต่ละครั้ง" 

การจุดเทียนแต่ละครั้งที่ CandleLike แนะนำระยะการจุดแต่ละครั้งคือ 1 ชั่วโมงขึ้นไป หรือสังเกตุดูง่ายๆ คือ ผิวหน้าเทียนหอมละลาย เป็นน้ำเท่ากันทั้งแก้ว 

การที่เราจุดเทียนหอมให้ผิวหน้าเทียนละลายเท่ากัน ข้อดีคือ กลิ่นหอมในเทียนจะระเหยได้เต็มที่ เพราะความร้อนจากไฟ จะทำให้น้ำมันหอมเกิดการระเหยในอากาศ ทำให้พื้นที่ของคุณหอม และถ้าหากเราไม่จุดเทียนให้ผิวหน้าเทียนละลายเท่ากันหมดละ จะเป็นอย่างไร

หากผิวหน้าเทียนละลายไม่เท่ากัน แล้วเราดับเทียนก่อน ปัญหาที่เราจะพบง่ายๆ คือ เมื่อเทียนเย็นตัวแล้ว จะเกิดหลุมบริเวณไส้เทียน เมื่อจุดครั้งต่อไป เทียนก็จะละลายแต่ตรงกลาง ไม่กระจายไปรอบแก้ว จะทำให้เทียนดับได้ เมื่อใช้ไปสักพัก เพราะน้ำตาเทียนที่ละลายจะมาไหลรวมกันตรงกลาง และท่วมไส้เทียน

CandleLike จึงแนะนำให้จุดเทียนแต่ละครั้งเกิน 1 ชั่วโมง เพื่อให้ผิวหน้าเทียนหอมละลายเท่ากัน

นอกจากระยะเวลาในการจุดเทียนหอมแล้ว ก็มีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้ผิวหน้าเทียนละลายไม่เท่ากัน เช่น "ไส้เทียนขนาดเล็กเกินไป" ทำให้ไฟร้อนไม่พอที่จะทำให้เทียนละลายเท่ากัน และอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เทียนละลายไม่เท่ากันคือ "อุณหภูมิอากาศเย็น" ถ้าเราจุดเทียนหอมในห้องแอร์ ข้อดีคือ กลิ่นหอมจากเทียนจะกระจายทั่วห้อง แต่ถ้าคุณเปิดแอร์ เย็นจัด สิ่งที่ตามมาคือ ผิวหน้าเทียนหอมอาจละลายไม่เท่ากัน เพราะอากาศที่เย็นเกินไป จะทำให้แก้วเทียนเย็น ทำให้เนื้อเทียนที่สัมผัสกับแก้ว ไม่สามารถละลายได้ ทำให้เทียนละลายเฉพาะตรงกลาง

ไฟแรง ไฟอ่อน ไส้เทียนสำคัญ

การจุดเทียนหอม ไส้เทียนก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะหากไส้เทียนยาวเกินไป ปัญหาอาจเกิดควันดำ แต่ถ้าไส้เทียนสั้นเกินไป การเผาไหม้เนื้อเทียนก็จะไม่ดี เพราะความร้อนไม่แรงพอ CandleLike แนะนำให้ ก่อนจุดเทียนหอมทุกครั้ง ดูที่ไส้เทียนว่า ไส้เทียนมีความยาวเกินไปไหม หากยาวไป ให้ใช้กรรไกร วัสดุง่ายๆ  ตัดให้สั้นลงหน่อย ประมาณ 5 - 7 มม. ก็พอ

ใช้เทียนเสร็จ ดับอย่างไร

หลังจากเราจุดเทียนหอม ให้กลิ่นระเหยทั่วห้องแล้ว เราต้องการดับเทียนหอม สิ่งที่หลายท่านทำแน่นอน เป่าเลย ดับเลย แต่ถ้าเราเป่าให้เทียนดับ ไส้เทียนจะยังมีความร้อน และเกิดเถ้าบริเวณปลายด้านบนของไส้เทียน ไส้เทียนก็จะกุดลง และเมื่อจุดเทียนครั้งต่อไป ไส้ก็จะสั้นเกินไป และไฟอาจจะไม่แรง วิธีดับเทียนที่ CandleLike แนะนำ คือหาวัสดุใกล้ตัว อาจจะเป็นไม้ เหล็ก เล็ก ดันบริเวณไส้เทียน "ส่วนใต้น้ำเทียน" ที่เป็นไส้สีขาวๆ ให้จมลงในน้ำเทียน และงัดขึ้นมา เพื่อให้น้ำตาเทียนดับไฟ และไส้เทียนก็จะถูกเคลือบด้วยน้ำตาเทียน ทำให้การจุดครั้งแต่ไป ไฟแรง แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ ห้ามด้นตรงส่วนไส้เทียนเผ่าไหม้ คือบริเวณปลายไส้เทียนสีดำ เพราะจะทำให้ไส้เทียนหักได้ ดันใต้น้ำตาเทียนนจะดีที่สุด